LABANOON CONCERT เปิดกล่อง

Image

วงลาบานูน (LABANOON) ในยุคแรกประกอบด้วย เมธี อรุณ (ร้องนำ+กีต้าร์) , อนันต์ สะมัน(เบส) และ สมพร ยูโซะ (กลอง) เริ่มเล่นดนตรีครั้งแรกช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนอิสลามวิทยาลัย ตั้งใจตั้งชื่อวงว่า ลาบานูน [ลาบานูน เป็นภาษาอาหรับแปลว่า นมสด] เพื่อเข้าประกวดวงดนตรีในเวที Hotwave music awards ครั้งที่ 2 แม้การประกวดจะทำได้เพียงเข้ารอบ 10 วงสุดท้ายแต่ก็ทำให้พวกเขาดีใจเเล้ว และการประกวดครั้งนั้นถือเป็นการเปิดประตูก้าวเข้าสู่วงการเพลงอย่างจริงจังเพราะหลังก้าวลงจากเวที ลาบานูน ก็ถูกทาบทามจาก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ให้เข้าสังกัดค่าย music bug เพื่อทำอัลบั้มเทป และในปี 2541 อัลบั้ม “นมสด” เทปชุดแรกของพวกเขาจึงเกิดขื้น เปิดตัวด้วยเพลง ยาม เพลงจังหวะสนุก ๆ ที่ฮิตไปทั้งประเทศฉุดให้ยอดเทปทะลุล้านตลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับทำให้ชื่อวง ลาบานูน ติดอยู่ในใจแฟนเพลงทันทีเช่นกัน ลาบานูน มีผลงานกับค่าย music bug ทั้งหมด 6 อัลบั้ม คือ 1. “นมสด”(ล้านตลับ) เพลงฮิต ยาม , หนักใจ , help me please , อมยิ้ม / 2. “191”(ล้านตลับ) เพลงฮิต 191 , บังอาจรักเธอ , แอบรัก / 3. “คนตัวดำ”(ล้านตลับ) เพลงฮิต แฟนเก่า , คนตัวดำ , ใจง่าย ซึ่ง 3 อัลบั้มแรกที่ออกมาสร้างปรากฏการณ์ ล้านตลับ ติดต่อกันทุกชุดอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะมีอัลบั้มที่ 4. “clear” เพลงฮิต รักแท้ , มิสคอล , ไม่กล้าพอ / 5. “สยามเซ็นเตอร์” เพลงฮิต เท่าเดิม , ฝันหวาน , ปฏิทิน และ 6. “24 ชั่วโมง” เพลงฮิต สตั๊นท์แมน , คำต้องห้าม แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ ลาบานูน ตัดสินใจหยุดพักงานเพลงระยะยาวด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งระหว่างนั้น เมธี ได้ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ควบกับการทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ขณะที่ อนันต์ ไปทำงานด้าน IT ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ส่วน สมพร ก็ย้ายไปตีกลองให้กับวงกะลา

8 ปีให้หลัง เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อ เมธี ส่งข้อความ MSN ไปถึง อนันต์ ถามหยอกเล่น ๆ ว่าหากจะกลับมาทำวง ลาบานูน อีกครั้งจะว่าอย่างไร คำตอบที่ได้รับคือ “พร้อมเสมอ” และอีกไม่กี่วัน อนันต์ ก็ได้ยื่นจดหมายลาออกจากการเป็นพนักงานออฟฟิสทันที แต่เสียดายที่ สมพร มือกลองคนเดิมติดตีกลองให้กับวง กะลา ไม่สามารถกลับมาร่วมวงได้ ลาบานูน จึงต้องหามือกลองคนใหม่ คือ สมเมย์ – ณัฐนนท์ ทองอ่อน (อดีตมือกลองวง oblivious [อ็อบบลิเวียส]) .. ปี 2553 ช่วงแรกของการเริ่มกลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง ลาบานูน ได้ทำเพลงแบบใต้ดินกับสังกัดค่ายเดิมและคิดว่าคงไม่ได้ทำอัลบั้มอีกแล้ว แต่หลังจากที่ออกทัวร์คอนเสิร์ตก็ได้เจอกับ ขจรเดช พรมรักษา (กบ BIG ASS) ซึ่ง กบ เป็นคนจุดประกายให้ ลาบานูน กลับมาทำอัลบั้มเพลงเป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้งกับสังกัดใหม่ค่าย genie records  (จีนี่ เร็คคอร์ดส)

และในที่สุดปลายปี 2557 ซิงเกิ้ลเปิดตัวชื่อ ศึกษานารี ก็ถูกปล่อยออกมา ตามด้วย พลังงานจน เพลงของคนสู้ชีวิตที่ได้ เปาวลี มาร่วมร้อง ก่อนจะมาพีคสุด ๆ กับเพลง “เชือกวิเศษ” ที่สร้างสถิติมีผู้เข้าชมทางยูทูปทะลุ 300 ล้านวิวเป็นเพลงแรกและเพลงเดียวของประเทศไทยที่ปัจจุบันยังไม่มีใครทำลายสถิติได้ และเพลง เชือกวิเศษ ก็ยังคว้ารางวัล Single Hit Of The Year จากเวทีประกาศรางวัลทางดนตรีอันทรงเกียรติและน่าเชื่อถืออย่าง The Guitar mag awards 2016 อีกด้วย จากนั้นยังคงปล่อยซิงเกิ้ลออกมาอย่างต่อเนื่องทั้ง แพ้ทาง , พนักงานดับเพลิง , ฉันก็คง ซึ่งเพลงทั้งหมดอยู่ในอัลบั้ม N.E.W.S. ที่วางจำหน่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559

เกือบ 20 ปีแล้วที่วงดนตรีเล็ก ๆ วงนึงได้ฝ่าฟันอุปสรรคจนสามารถยืนหยัดเป็นตัวจริงในวงการเพลงมาได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่าวง “ลาบานูน” เจ้าของสถิติ ล้านตลับในอดีต และ หลายร้อยล้านวิวในปัจจุบัน ยังไม่เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบเป็นของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว!!!
แต่ วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2560  ณ  INDOOR STADIUM หัวหมาก “เมธี – อนันต์ – สมเมย์” 3 สมาชิกปัจจุบันของ ลาบานูน จะได้ทำตามฝันที่พวกเค้ารอมานานแสนนาน ด้วยการระเบิดคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรกใน

“LABANOON CONCERT เปิดกล่อง” (ลาบานูน คอนเสิร์ต เปิดกล่อง)
คอนเสิร์ตที่จะเปิดทุกซอกมุมบนถนนดนตรีตลอด 20 ปีของ ลาบานูน ให้แฟนเพลงได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ด้วยเอกลักษณ์ทางดนตรีและเสียงร้องแบบชาวใต้ที่นำมาผสมกับดนตรีร็อกได้อย่างกลมกลืน และที่ขาดไม่ได้คือแขกรับเชิญที่ ลาบานูน เตรียมขนมาเซอร์ไพร้คนดูจนล้นเวทีแน่นอน และเนื่องจากแฟนเพลงของ ลาบานูน มีทุกเพศทุกวัย ที่รู้จักและติดตามกันมาตั้งแต่วันแรกก็เยอะ แฟนเพลงใหม่ ๆ ที่เพิ่งมาทำความรู้จักกันในอัลบั้ม N.E.W.S ก็แยะ ดังนั้นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกนี้จึงเสมือนเป็นการชวนแฟนคลับให้มาสนุกกันในงานคืนสู่เหย้า มาร่วมรำลึกความหลังที่มีทั้ง สุข สนุก ซึ้ง เศร้า ปนกันได้แบบครบรส

LABANOON CONCERT เปิดกล่อง”
แสดงวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2560 ณ INDOOR STADIUM หัวหมาก
บัตรยืนราคา 1,000 บาท / บัตรนั่งราคา 1,200 / 1,500 และ 2,000 บาท
เปิดจองบัตรวันจันทร์ที่ 27 ก.พ. นี้ เวลา 10 โมงเช้า ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา,
www.thaiticketmajor.com หรือโทร.02-262-3456